วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

สายพันธุ์โคฮากุ (Kohaku Bloodline)

สายพันธุ์โคฮากุ (Kohaku Bloodline)


ปลาโคฮากุ หรือ ปลาคาร์พสีขาว แดง จัดอยู่ในกลุ่มปลาหลักสามชนิด ของบรรดาปลาคาร์พทั้งหมด (โคฮากุ ซันเก้ และ โชว่า) และเป็นหนึ่งใน ปลาคาร์พที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงมากที่สุด มักจะได้ยินคำพูดหนึ่งอยู่เสมอจากบรรดานักเลี้ยงว่า "การเลี้ยงปลาคาร์พนั้น เริ่มต้นจากโคฮากุ และสิ้นสุดลง ที่โคฮากุ" ตามบันทึกเก่าแก่เล่ากันว่า ปลาคาร์พสีขาว แดง เริ่มปรากฎขึ้นมาในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1800 มีปลาคาร์พสีขาวที่มีแก้มสีแดงปรากฎขึ้น ซึ่งเกิดจาก การผ่าเหล่าของปลาคาร์พสีดำพันธุ์ดั้งเดิม (Magoi) ต่อมาได้มีการนำปลาที่มีสีแดงที่แก้มดังกล่าว ไปผสมพันธุ์กับปลาคาร์พสีแดงล้วน (Higoi) ได้ลูกออกมา เป็นปลาสีขาวที่มีสีแดงที่ท้อง และปลาสีขาวที่มีสีแดงที่แก้ม ในช่วงปี ค.ศ. 1530 ในหนังสือบางเล่มก็ได้มีการกล่าวถึงปลาคาร์พสีขาว แดง ที่มีสีแดงบนหัว สีแดงคลุมทั้งหัว หรือมีสีแดงที่ปาก และ ปลาสีขาวที่มีลวดลายแดงบนหลัง

 
เล่ากันว่าในช่วงราชวงศ์ Meiji (ค.ศ. 1868-1912) ปลาคาร์พสีขาวแดง เริ่มเป็นที่แพร่หลายในเขต Yamakoshi ในเมือง Niigata กันแล้ว มีบันทึกว่า นาย Hikozaburo Hirazawa ได้นำเอาปลาคาร์พสีขาว แดง ไปโชว์ในงาน Taisho Exhibition ในช่วงราวๆปี ค.ศ. 1914-1915 เป็นการยืนยันแน่ชัดว่ายุคนั้น มีปลาชนิดนี้เกิดขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเรียกชื่อว่า โคฮากุ ทันที เดิมทีปลาคาร์พสีขาว แดง ที่มีลวดลายแดงบนหลัง เรียกกันว่า ซาราซา (Sarasa) ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเรียกว่า โคฮากุ ในภายหลัง คำว่าสายพันธุ์ หรือ สายเลือด (Bloodline) ในปลาคาร์พนั้น ส่วนใหญ่เป็นการตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติกับผู้ที่ผสมพันธุ์ปลาเหล่านั้น หรือตั้งตามชื่อฟาร์ม ที่ผลิตปลาเหล่านั้นออกมา สายพันธุ์โกสุเกะ (Gosuke Bloodline) ปลาโคฮากุ ที่เริ่มจัดได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่แท้จริงสายพันธุ์แรก เกิดขึ้นในช่วงปลายยุคปี ค.ศ. 1800 เรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของโคฮากุยุคใหม่ เมื่อนาย Kunizo Hiroi แห่งฟาร์ม Gosuke ในเมือง Utogi ได้นำปลาคาร์พสีขาวแดงเพศผู้ที่มีลวดลายแดงเป็นจุดกระจายไปทั้วตัว (Goten Sakura) มาผสมกับ ปลาคาร์พสีขาวแดงเพศเมียที่มีลวดลายแดงคลุมทั้งหัว (Menkaburi) ได้ลูกปลาที่เป็นโคฮากุยุคใหม่ ที่มีลวดลายแดงปรากฎอยู่ที่บนด้านหลัง (Sarasa) เรียกชื่อ สายพันธุ์ตามชื่อฟาร์มว่า Gosuke Kohaku และได้รับการยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์ชนิดแรกของโคฮากุ เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า Gosuke Sarasaหลังจากนั้นได้มีการผลิตสายพันธุ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกหลายสายพันธุ์ ในยุคปลาย ค.ศ. 1800 ถึงต้นปี ค.ศ. 1900 โดยล้วนแล้วแต่ใช้พ่อแม่พันธุ์จาก Gosuke เช่น สายพันธุ์ Jeimon ในช่วงปลายปี 1890 ,สายพันธุ์ Genjiro ,สายพันธุ์ Genpachi ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และสายพันธุ์ Gorobei ในช่วงประมาณปี 1921 ซึ่งบางสายพันธุ์ก็ถือได้ว่าหายสาบสูญไปหมดแล้ว สายพันธุ์โทโมอิน (Tomoin Bloodline) สายพันธุ์ Tomoin จัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์โคฮากุที่มีชื่อเสียงมากที่สุด โดยมีต้นกำเนิดมาจากสายพันธุ์ Gosuke เช่นกัน ในช่วงประมาณปี 1935 นาย Goroji Sato ซึ่งมีฉายาที่เรียกกันว่าคุณปู่โกสุเกะ (Granddad Gosuke) ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้นำเอาปลาโคฮากุ สายพันธุ์ Gosuke มาจากฟาร์ม Sakuzen ในเมือง Shiodani ซื้อมาในราคา 500 เยน มาขายต่อให้กับฟาร์ม Koide ซึ่งฟาร์ม koide ก็ไม่ได้มีการนำเอาแม่พันธุ์ตัวนั้นไปใช้ผสมพันธุ์ คุณปู่โกสุเกะ จึงขอซื้อคืนและนำไปขายให้กับนาย Genji Hoshino เจ้าของฟาร์ม Tomoin ( บางแห่งเรียก Tomoemon) ซึ่งฟาร์มนี้ได้ทำการผลิตลูกปลาโคฮากุ ออกมาจากแม่พันธุ์ตัวดังกล่าวขึ้นมาเป็นจำนวนมากเป็นครั้งแรก และได้รับการยอมรับกันว่าเป็นสายพันธุ์โคฮากุที่แท้จริงหรือเป็นสายพันธุ์ที่นิ่งสายพันธุ์แรก

 
แม่พันธุ์ Tomoin ตัวดั้งเดิมนั้น มีประวัติการเดินทางที่ยืดยาวมาก คือในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้าของฟาร์ม Tomoin มีอาการป่วยอย่างรุนแรง และเลิกผสมพันธุ์ปลาในขณะนั้น และยังไม่ได้ให้อาหารแม่พันธุ์ตัวดังกล่าวกินอีกด้วย เป็นเหตุให้แม่ปลานั้นผอมจนอยู่ในสภาพใกล้ตาย คุณปู่โกสุเกะคนเดิม มาพบเข้าจึงขอซื้อคืนอีกครั้ง และนำไปให้น้องชายของตนชื่อว่านาย Tomisaku Sakai แห่งฟาร์ม Matsunosuke ช่วยดูแล ซึ่งนาย Sakai ได้นำไปเลี้ยงดูเป็นอย่างดี จนอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ในราวปี 1953 คุณปู่โกสุเกะ ก็นำเอาแม่พันธุ์ตัวนั้นไปขายให้กับนาย Ichiro Mano แห่งฟาร์ม Izumiya พร้อมกับพ่อพันธุ์อีก 2 ตัว ในราคา 11,000 เยน จัดได้ว่าในยุคนั้นไม่เคยมีปลาตัวใดมีราคาถึง 10,000 เยนมาก่อน นาย Ichiro Mano ใช้แม่พันธุ์ตัวนี้ผสมพันธุ์อยู่นานประมาณ 10 ปี และก็ยังส่งเข้าประกวดไปพร้อมๆกันอีกด้วย ซึ่งแม่พันธุ์ตัวนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศประมาณ 3 ครั้ง ลักษณะเด่นของปลาโคฮากุ สายพันธุ์ Tomoin คือสีแดงที่เข้มและลึกมาก อาจเกิดเงาดำคล้ายๆโกโรโมะขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลามีอายุ 3 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มว่า โคฮากุบางตัวของสายพันธุ์ Tomoin รุ่นเก่าๆ มีโอกาสที่จะมีจุดสีดำที่ไม่ต้องการ ( Shimi ) ปรากฎขึ้นมาได้ ฟาร์มดังๆ หลายๆแห่งนิยมใช้ สายพันธุ์นี้เป็นพ่อแม่พันธุ์ เช่น ฟาร์ม Matsunosuke ในยุคแรกๆ ฟาร์ม Yashitani ฟาร์ม Izumiya เป็นต้น แต่ก็ยังเรียกขานกันว่าเป็นสายพันธุ์ Tomoin อยู่ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ฟาร์มแรกที่พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมา ลูกๆของสายพันธุ์ Tomoin ได้ถูกนำไปพัฒนาเป็นสายพันธุ์ใหม่ต่อกันอย่างมากมาย เช่นสายพันธุ์ Yagozen ซึ่งเป็นที่นิยมมากเช่นกัน เกิดขึ้นมา ประมาณ 10 ปีหลังจากสายพันธุ์ Tomoin และไม่เพียงถูกนำไปพัฒนาเป็นปลาโคฮากุเท่านั้น บางฟาร์มก็นำปลาโคฮากุสายพันธุ์นี้ ไปใช้เป็นส่วนประกอบ ในการผสมพันธุ์ปลา ไทโช ซันเก้ (ขาว แดง ดำ) อีกด้วย

 
สายพันธุ์ แมนโซ (Manzo Bloodline) Manzo เป็นอีกสายพันธุ์โคฮากุที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งเกิดมาจากแม่พันธุ์สายเลือด Gosuke จากฟาร์ม Genpachi และพ่อพันธุ์มาจากฟาร์ม Sankuro (ซึ่งฟาร์มนี้ใช้แม่พันธุ์จากฟาร์ม Izumiya และพ่อพันธุ์จาก Kyubei) ลักษณะเด่นของสายพันธุ์ ManZo คือ มีสีแดงที่เข้มมาก และมีขอบด้านหลังของลวดลาย สีแดง (Kiwa) ที่มีลักษณะโค้ง สายพันธุ์ Manzo เป็นที่นิยมในเขต Yamakoshi เนื่องมาจากคุณภาพน้ำในบริเวณนั้นเหมาะกับสายพันธุ์นี้ พ่อแม่พันธุ์โคฮากุ ของหลายฟาร์มดัง ใช้สายพันธุ์นี้ เช่น ฟาร์ม Dainichi , ฟาร์ม Sakai of Hiroshima , ฟาร์ม Torazo , ฟาร์ม Hoshikin , ฟาร์ม Miyajima และฟาร์ม Igarashi เป็นต้น รวมทั้งเป็น พ่อพันธุ์ตัวสำคัญในการผลิตปลาซันเก้สายพันธุ์ Torazo ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

 
สายพันธุ์ เซ็นซุเกะ (Sensuke Bloodline) อีกหนึ่งสายพันธุ์ดังของโคฮากุ ก็คือสายพันธุ์ Sensuke ซึ่งนาย Sakutaro Tsuna เจ้าของฟาร์ม Sansuke แห่งตำบล Budokubo เมือง Kawaguchi ผลิตขึ้นจากการผสมข้ามสายพันธุ์ พ่อแม่สายเลือด Tomoin จากฟาร์ม Tsuneshichi กับแม่พันธุ์ตัวหนึ่งซึ่งไม่ได้ระบุว่ามาจากที่ใด ผลผลิตที่ได้จาก Sensuke ในยุคแรกๆ มีจำนวนน้อยมาก มีลักษณะเด่นในเรื่องของโครงสร้างของรูปร่างที่ใหญ่ และสีแดงที่สว่าง ในยุคกลางทศวรรษ 1970 ถึงกลางทศวรรษ 1980 สายพันธุ์ Sensuke ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และได้มีการผลิตออกมาเป็นจำนวนมากขึ้น สาเหตุหนึ่งก็เพราะมีขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีต ปลาส่วนมากจะไม่ใหญ่ขนาดนี้ ปลาที่มีขนาด 60 เซนติเมตรขึ้นไปก็นับว่าเป็นปลาจัมโบ้แล้ว ผู้ที่ตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ ก็คือ นาย Iizaki แห่งฟาร์ม Matsue Nishikigoi Center เพื่อเป็นเกียรติกับผู้พัฒนาสายพันธุ์ ปลาโคฮากุสายพันธุ์ Sensuke มีชื่อในเรื่องของขนาดที่สามารถเติบโตเป็นปลาจัมโบ้ มีโครงสร้างของกรามที่ใหญ่ รูปร่างโค้งมนและกว้าง เมื่อปลามีขนาดใหญ่ ลักษณะแก้มจะดูเหมือนสุนัขพันธุ์บูลด็อก มีสีแดง (Hi) ที่สดสว่าง แม้ว่าจะไม่ได้รับการเร่งสี เพราะในยุคที่เกิด Sensuke ใหม่ๆ นักเลี้ยงปลายังไม่รู้จักการใช้สารเร่งสีปลาเหมือนในปัจจุบัน ขอบลวดลายของสีแดงมีความคมดีบริเวณหัวและช่วงบนของลำตัว ในส่วนกลางลำตัวลงไป ทางหาง ขอบสีด้านหน้า (Sashi) จะไม่คมหรือหนาแน่นเท่า เรียกว่า Moruzome ลักษณะของขอบสีแดงด้านหลัง (Kiwa) ค่อนข้างเป็นแนวเรียบ สายพันธุ์ Sensuke ในยุคแรกยังมีลวดลายที่ไม่ค่อยสวยงามนัก จนกระทั่งรุ่นต่อๆ มาซึ่ง ฟาร์ม Sakai of Hiroshima ได้ซื้อปลา Sensuke ไปใช้ผสมพันธุ์และได้ผลิตลูกปลาที ที่มีคุณภาพและมีลวดลายสวยงามออกมาเป็นจำนวนมาก ฟาร์มดังที่นิยมใช้แพันธุ์ Sensuke นอกจากฟาร์ม Sakai of Hiroshima แล้วก็ยังมีฟาร์ม Marusei Koi Farm หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Seitaro ซึ่งจริงจัง กับการใช้สายพันธุ์นี้มาก บางฟาร์มก็นำสายพันธุ์ Sensuke ไปพัฒนาต่อ เช่น ฟาร์ม Ogawa โดยผลิตเป็นสายพันธุ์ใหม่ของตัวเอง แต่ก็ยังให้เกียรติต้นกำเนิดเดิม โดยเรียกว่า Ogawa Sensuke ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่อง Shiroji หรือความขาวว่าขาวประดุจหิมะ สายพันธุ์ Sensuke อาจไม่เป็นที่แพร่หลายในหมู่ผู้เพาะพันธุ์ปลาใน Nigata เท่ากับ Tomoin แต่ก็เป็นที่นิยมกันมากสำหรับผู้เพาะพันธุ์ในแถบตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น

 
พันธุ์ไดนิชิ (Dainichi Bloodline) จัดเป็นสายพันธุ์สมัยใหม่ที่มีชื่อเสียงมาก ผู้ที่ผลิตสายพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับจากฟาร์มผู้ผลิตอื่นๆ ยกย่องให้เป็นอัจฉริยะ ก็คือ นาย Minoru Mano ที่เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อเร็วๆนี้ สายพันธุ์ Dainichi พัฒนามาจากพ่อแม่สายพันธุ์ Manzo และสายพันธุ์ Tomoin สามารถผลิตได้ปลาคาร์พโคฮากุที่มีขนาดใหญ่ และมีโครงร่างสวย มีลักษณะของหลังบริเวณรอยต่อกับหัวเป็นโหนกขึ้นมา (Bridge Back) ซึ่งแสดงถึงโครงร่างที่มีช่วงไหล่กว้างใหญ่ ช่วยให้ปลาเติบโตได้มาก มีคุณภาพของสีแดงที่สด และหนาลึก ปัจจุบัน Dainichi เป็นที่ยอมรับว่าเป็นอีกสายพันธุ์โคฮากุที่สำคัญ ได้ถูกนำไปใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในฟาร์มชื่อดังต่างๆอีกมากมาย เช่น ฟาร์ม Igarashi Kazuto , ฟาร์ม Sakai of Hiroshima และฟาร์ม Momotaro แห่งเมือง Okayama เจ้าของบ่อขุนปลาควบคุมสภาวะขนาดยักษ์ ความจุ 400,000 แกลลอน เป็นต้น ซึ่งโคฮากุของสองฟาร์มนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องความใหญ่กว่าใคร ลูกปลา Tosai (อายุไม่เกินหนึ่งปี) โตถึงประมาณ 30-45 ซม. ในอดีตลูกปลา Tosai มักมีขนาด 10-15 ซม. เป็นอย่างมาก นักเลี้ยงปลาคาร์พชาวไทยอาจฟังแล้วไม่ตื่นเต้นนัก เพราะสามารถบำรุงอาหารกันอย่างหนักได้ตลอดทั้งปี แต่หากพิจารณาถึงสภาพฤดูกาล ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแทบจะต้องอดอาหารปลาในช่วงหน้าหนาวยาวราว 4 เดือนแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น